ไม่ได้มีแค่ iPhone 6 แน่นอนเพราะตอนนี้กลายเป็นว่าสมาร์ตโฟนที่เป็นเรือธงจริงๆของ Apple คงจะต้องยกตำแหน่งให้กับ iPhone 6 Plus ไปเสียแล้ว เพราะตัวเครื่องมีคุณสมบัตที่เด่นกว่า iPhone 6 รุ่นปกติอยู่หลายประการซึ่งที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 5.5 นิ้วในระดับ Phablet แต่ตัวเครื่องยิ่งบางลงกว่าเดิมนั่นแหละฮะ 🙂
สเปค iPhone 6 Plus
– หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้วผลิตจากกระจก “Ion-Strengthened Glass” ที่มีความโค้งมากกว่าเดิมบริเวณขอบหน้าจอ ความละเอียดหน้าจอ Retina HD ที่ 1080 x 1920 พิกเซล, 400 ppi
– บอดี้บางเพียง 7.1 มม. ส่วนตัวเครื่องผลิตจากโลหะ Anodized Aluminum
– ชิปเซ็ต A8 สถาปัตยกรรม 20nm แบบ 64-bit รุ่นใหม่ให้พลังขับเคลื่อน CPU แรงขึ้น 25% และ GPU แรงขึ้น 50%
– ชิปเซ็ต M8 ตรวจจับการเคลื่อนไหวรุ่นใหม่มาพร้อมเซนเซอร์ Barometer สำหรับวัดระดับความสูง
– ระบบปฏิบัติการ iOS 8
– กล้องหลัง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลชสองสี True Tone Dual LED Flash ขนาดพิกเซลใหญ่ขึ้นเป็น 1.5µ พิกเซล f/2.2 รองรับระบบ Phase Detection Autofocus ได้เร็วกว่าเดิม มีระบบกันสั่น Optical Image Stabilization ในตัว ถ่ายภาพ Panorama ได้สูงสุด 43 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอ Full HD ได้ที่ระดับ 60fps รองรับการบันทึกภาพ Slow-Motion ระดับสูงสุด 240fps แต่ความละเอียดต่ำลง
– แบตเตอรี่ใช้งานฟังเพลงต่อเนื่องได้ 80 นาที คุยโทรศัพท์ผ่าน 3G ได้ 24 ชั่วโมง สแตนด์บายได้ 16 ชั่วโมง
– รองรับระบบ Voice Over LTE และ WiFi Calling ในประเทศที่ใช้งานได้
– รองรับเครือข่าย 4G LTE ได้มากถึง 20 band และมีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 150Mbps
– รองรับ WiFi 802.11ac เร็วกว่า WiFi ปกติสามเท่า
– รองรับ NFC เพื่อการใช้จ่ายแบบไร้สายในระบบ Apple Pay
– ราคาวางจำหน่ายแบบติดสัญญาที่ $299 สำหรับรุ่น 16GB, $399 สำหรับรุ่น 64GB และ $499 สำหรับรุ่น 128GB
– เริ่มเปิดจองในวันที่ 12 กันยายนก่อนวางขายในประเทศกลุ่มแรก 19 กันยายนนี้ (ไม่มีประเทศไทย)
ที่มา TechXcite